หน่วยที่ 1
การวาดเส้นสร้างสรรค์

paste_image2.jpg

การวาดเส้นสร้างสรรค์

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการเขียนภาพ  มีวิวัฒนาการมาโดยตลอด ไม่ว่าเชื้อชาติใด  ภาษาใดในโลกมีการสื่อสารกันผ่านมาทางภาพเขียน ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีต หรือการร่างภาพแนวความคิด (idea sketch)  การวาดเส้น    ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการเขียนภาพนั้นจึงนับเป็นการเริ่มต้นของการสร้างสรรค์งานศิลปะทั้งด้านจิตรกรรม  ประติมากรรม   สถาปัตยกรรม   ภาพพิมพ์และงานออกแบบประยุกต์ศิลป์ประเภทต่าง ๆ  เป็นต้น

ความเข้าใจในเบื้องต้นในการวาดเส้น

 การวาดเส้น เป็นวิธีการขั้นพื้นฐานที่สามารถสร้างความเข้าใจ อธิบายความหมายต่างๆ ได้ตามปรารถนา และยังเป็นสิ่งที่ช่วยสื่อสารให้เกิดความเข้าใจที่เห็นเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ถ่ายทอดกับผู้ดูได้เป็นอย่างดี  ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาในหลักสูตรการเรียนการสอนซึ่งถือเป็นวิชาที่มีความสำคัญยิ่งของการศึกษาในในสถาบันการศึกษาด้านศิลปะ

  หลักสูตรการศึกษา ด้านศิลปะได้กำหนดให้วิชาวาดเส้นเป็นวิชาพื้นฐานที่นักศึกษาทุกคนจำเป็นต้องเรียน และตั้งมาตรฐานระดับของผลงานอยู่ในระดับของผล งานอยู่ในระดับสูงนั้นหมายความว่า หลักสูตรให้ความสำคัญกับวิชาวาดเส้นซึ่งเป็นหัวใจหลักสู่การเรียนในวิชาอื่นๆ และสามารถทำให้นักศึกษามีคามสามารถในการสร้างสรรค์ในระดับสูง  และเป็นนักออกแบบที่เก่งได้เป็นอย่างดี

การสื่อสารด้วยสื่อเป็นอักษรตัวหนังสือที่สามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆ มันอาจจะไม่เพียงพอต่อความเข้าใจ จำเป็นต้องมีรูปาดหรือภาพประกอบที่ก่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นนั้นแสดงให้เห็นว่า  รูปภาพหรือรูปวาดสามารถอธิบายเนื้อหาเรื่องราวที่มีอยู่ในใจของศิลปินเองออกมาได้เป็นอย่า

 

งดี    อีกทั้งยังสร้างแรงกระตุ้นในจินตนาการแก่ผู้ดูได้อีกหลายทิศทางวิชาวาดเส้นเป็นวิชาสำคัญของนักศึกษาศิลปะ

วิชาที่สำคัญในทุกระดับชั้นของการสร้างสรรค์ศิลปะ คือ  วิชาวาดเส้น (Drawing) นั้น หมายความว่า จะเรียนวิชาอะไรก็แล้วแต่ต้องใช้วิชาวาดเส้นเป็นพื้นฐานในการแสดงออกจะด้วยเทคนิควิธีการล้วนเกี่ยวเนื่องมาจาการวาดเส้นทั้งสิ้น

ในกระบวนการของการวาดเส้นทุกขึ้นตอนจะเกิดการเรียนรู้ในทุกมิติ  เช่น การเรียนรู้องค์ประกอบ การเรียนรู้โครงสร้างส่วนต่างๆ ของวัสดุ  และสิ่งแวดล้อมหรือสภาวะแวดล้อมที่มีวัสดุเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมนั้น เป็นขบวนการของการสร้างสรรค์ ซึ่งเริ่มต้นจากากรับรู้สู่การแสดงออก หมายถึง การผ่านขบวนการต่างๆ คือ การมองแบบวิเคราะห์ แยกแยะวัตถุเหล่านั้นที่เราจะ Copy ลักษณะต่างๆ ของวัสดุนั้น ๆ เช่น วัสดุนั้นเป็นสิ่งมีชีวิต  มีพื้นผิวอย่างไร  มีโครงสร้างเป็นเช่นไรถ้าวัสดุเป็นสิ่งอื่น ๆ เช่น ไม้ โลหะ แก้วฯ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน  ซึ่งจะใช้วัสดุ  อุปกรณ์ เทคนิควิธีการ อย่างไหนในการวาดเส้น พื้นฐานของการวาดเส้นของศิลปินหรือนักศึกษาศิลปะไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์  ต้องเริ่มต้นจากการสังเกตวิเคราะห์ เปรียบเทียบโครงสร้างทางกายภาพ และการหยั่งรู้  มองออก (perceptual) ในรูปทรงที่จะ Copy ผสมผสานกับประสบการณ์ การมองแบบเปรียบเทียบ  โดยใช้ลักษณะความเข้าใจในเรื่องของเส้นเป็นพื้นฐาน เช่น เส้นตรง เส้นโค้ง เส้นหยักมุม เส้นอิสระ  Freehand

  

 

 

การเตรียมความพร้อมในการวาดเส้น

5.jpg  มีนักเรียนไม่มากนักที่สนใจจะเรียน "ศิลปะ" และในจำนวนนี้คือ นักเรียนและนักศึกษานั่นเอง การแข่งขันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นมีจริง  เพราะในโลกปัจจุบันจะทำอะไรก็ย่อมต้องมีการแข่งขันทั้งสิ้น  แต่การแข่งขันกันในจำนวนที่ไม่มากน่าจะเป็นกำลังใจให้พอมีความหวังอยู่บ้าง

การเรียนศิลปะหรือการเรียนอะไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมอยู่เสมอด้วยความไม่ประมาท

การเตรียมพร้อมในขั้นเริ่มต้นนั้นน่าจะเป็นความพร้อมในทางใจก่อนเช่น การสำรวจตัวเองว่ามีใจรักที่จะเรียนทางนี้จริงหรือเปล่า หรือไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรแล้วจึงมาเรียนศิลปะ ความไม่แน่ใจหรือไม่ตั้งใจมีผลเสียทั้งก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะไ

 

ม่สามารถทุ่มเทให้ได้เต็มที่และมีผลเสีย  หากได้เข้าเรียนศิลปะแล้ว  ก็ไม่สามารถพัฒนาศิลปะที่อยู่ในตัวให้งอกงามได้ทำให้เสียเงิน  เสียเวลากับ  การที่ต้องศึกษาศิลปะไปอย่างแกน ๆ

การเตรียมพร้อมทางใจนั้น อาจรวมไปถึงการทำให้ผู้ปกครองได้รับทราบว่าเราชอบอะไร และจะเรียนอะไร มีผู้ปกครองจำนวนหนึ่งที่เข้าใจศิลปะ แต่ก็มีผู้ปกครองจำนวนมากเหมือนกัน     ที่ไม่อยากให้ลูกหลายเรียนศิลปะเพราะเห็นว่าดูไร้สาระไม่มีอนาคตการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองในขั้นแรกนี้เองที่มีผลในทางใจ และเพิ่มความมั่นใจในการเตรียมตัวเพื่อศึกษาศิลปะในอนาคต

การเตรียมตัวในขึ้นต่อมาคือ การฝึกฝนทางศิลปะ หรือที่รู้จักกันว่าต้องมีการ "ฝึกมือ" การฝึกมือ คือการแสดงออกให้เห็นว่า ตนเองมีความสามารถในทางศิลปะ  ความจริงมีฝีมือในการวาดรูปกับความเป็นศิลปะนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวกัน  คนวาดรูปเก่งอาจไม่ใช่คนอื่นคนที่ประสบความสำเร็จจนเป็น "ศิลปิน" ก็ได้ แต่การวาดรูปนั้นเป็นทางเดินเส้นหนึ่งที่นำพาไปสู่ศิลปะได้

ความรู้ที่เป็นพื้นฐาน นอกจากความรู้จากการศึกษาในทางประวัติศาสตร์  และความรู้จากการรู้จักคุณค่าของศิลปะแล้ว พื้นฐานที่แท้จริง  และเร่งรัดที่สุดสำหรับคนที่จะเข้ามาสู่ดินแดนศิลปะในขั้นเริ่มต้น ก็คือ  การศึกษาวิชาวาดเส้น  และวิชาองค์ประกอบศิลป์

Drawing[1].jpg Drawing3[1].jpg

วิชาวาดเส้น หรือ Drawing นั้นถือว่าเป็นแกนหลักที่จะก้าวไปสู่กระบวนการอื่นๆ ในการสร้างสรรค์ศิลปะ ด้วยเหตุที่วาดเส้นจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้นักเรียนศิลปะได้กำหนดโครงร่างของภาพ โครงสร้างของสิ่งที่จะเขียน และการให้ชีวิตความรู้สิ่งที่เขียนตามที่ตาของเรามองเห็น  หากเราวาดรูปไม่เป็นก็ไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ภายในออกมาเป็นรูปได้ถึงแม้จะมีความอยากที่จะเขียนรูปอย่างไร หากเราไม่มีฝีมือในการถ่ายทอดก็ไม่สามารถทอดความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมาได้

ส่วนวิชาองค์ประกอบศิลป์นั้น เป็นส่วนของทฤษฏีที่สอนให้นักเรียนรู้จักใช้ความคิดในการแสดงออก รู้จักเรื่องราวของเส้น  รูปทรง สี พื้นผิว และพื้นที่ว่าง รู้จักการจัดวางภาพให้เหมาะสม และรู้จักการใช้ทัศนธาตุได้อย่างที่ใจเราต้องการและอารมณ์ความรู้สึก แต่อีกวิชาหนึ่งเป็นการศึกษาเพื่อใช้ความคิดในการจัดวาง

สำหรับการศึกษาวิชาวาดเส้นนั้น อุปกรณ์ใช้มักเป็นอุปกรณ์พื้นฐานไม่สลับซับซ้อนในทางเทคนิค เพียงแต่เราค่ามีดินสอ และกระดาษก็สามารถฝึกฝนได้   ดังนั้นในทางเทคนิค การวาดเส้นจึงไม่เป็นอุปสรรคและไม่ยากที่จะเรียนรู้

การวาดเส้นพื้นฐาน

Drawing6[1].jpg  อันดับแรกทำความความเข้าใจในเนื้อหาของวัสดุต้นแบบที่จะทำการ Copy ก่อน และสำคัญจะต้องมีความเข้าใจในเทคนิคซึ่งจะต้องพัฒนาให้เกิดเป็นระบบอย่างชำนาญ อัตโนมัติ อันดับต่อไปอย่างที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นของคำว่าวาดเส้น  คือ การเขียนรูปด้วยเส้นหลายๆ มิติ คือเส้นใน 1 มิติ แบบเรขาคณิต (Geometric) สู่การผสมผสานเป็น 2 มิติ อย่างเป็นระบบขั้นตอน และวิธีต่าง มันสามารถบอกถึงแนวทางและความรู้สึกต่อสายตา  และภายใต้จิตสำนึกได้เป็นอย่างดี  ยกตัวอย่าง เช่น เส้นเฉียงหลายๆ เส้น วาดเรียงกันจะให้รู้สึกเคลื่อนไหว เส้นตั้งตรง หนึ่งเส้นหรือหลายเส้นจะให้รู้สึกนิ่งมั่นคงแข็งแรง  เส้นตรงแนวนอนจะให้รู้สึกสงบเรียบง่าย เป็นต้น ความเข้าใจในรูปร่างหน้าตารูปด้านข้าง  หรือรูปด้านที่อยู่ในมุมมองอย่างรวดเร็ว เข้าใจถึงโครงสร้างทั้งหมด  นอกเหนือจากรูปทรงแล้วจำเป็นต้องมีความเข้าใจในรูปร่างของพื้นที่ว่าง (Spac)  เค้าโครงของรูปทรง (Suggesting Form) พื้นผิว (Surface) ลักษณะพื้นผิว (Texture) แสง (Light) เงา (Shadow) และความถูกต้องของทัศนียภาพ (perspective)

1. สร้างความคุ้นเคยกับวิธีการใช้เส้นด้วยดินสอด้วยการร่างขีดวาดไปบนกระดาษด้วยความชำนาญให้คล่องมือเสียก่อน

2. รู้จักสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งที่มองเห็นกับมือที่จะวาด ทำความเข้าใจในแบบที่วาดว่ามันคืออะไร เป็นวัตถุสิ่งของหรือเป็นสิ่งมีชีวิต  คนหรือสัตว์

3. เลือกมุมที่เหมาะสมสวยงามในการเขียนโดยเข้าใจว่าสิ่งที่เราจะเขียนไม่ได้มุมที่สวยงามเสียทุกมุม บางสิ่งจะมีมุมบอดที่ไม่สวย หรือไม่ก็มีมุมที่แสงเงาไม่ชัดเจน อย่าทนเขียนในมุมที่ไม่ดีเพราะนั้นเท่ากับเป็นการเริ่มต้นที่ผิด เขียนไปก็ไม่ได้ดี

4. การสร้างชีวิตให้กับสิ่งที่เขียน  เราต้องเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เราจะเขียนมันมีชีวิตของมันเอง  ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีชีวิตหรือไม่ชีวิตของโต๊ะเป็นอย่างไร  ชีวิตของคนเป็นอย่างไร เราไม่ได้ต้องการให้นักเรียนลอกภาพได้เหมือนจริง แต่เราต้องการชีวิตจริง

5. รู้จักการเปรียบเทียบสัดส่วน  การเขียนรูป คือการสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นจากตัวเราทั้งสิ้น  ดังนั้นการเขียนสิ่งใด ๆ ลงไป   จะต้องมีการเปรียบเทียบด้วยตัวของมันเอง    ความสูง  ความกว้าง มีสัดส่วนอย่างไร ขนาดของสิ่งนั้นต้องนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งนี้เพื่อให้ทุกอย่างในภาพมีความลงตัวและอยู่ด้วยกันได้

ประการสุดท้าย เป็นสิ่งที่จะต้องแนะนำทั้งนักเรียนที่จะเริ่มกำลังศึกษา และนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่คือการฝึกฝนอย่างมุ่งมั่น สม่ำเสมอ และจริงจัง การศึกษาทุ่มเททำให้มีพัฒนาดีขึ้น การเขียนรูป 10 รูปในวันหนึ่ง  เมื่อเปรียบเทียบกับการเขียนรูปเดียวย่อมได้ผลต่างกัน ดังนั้นก่อนจะเข้ามาศึกษาศิลปะนักเรียนต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเต็มที่  เมื่อได้ผ่านความวิริยะ อุตสาหะมาแล้วระยะหนึ่งก็จะรู้ว่าตนเองได้พัฒนาจากจุดเดิมมาไกล

นอกเหนือจากการมองและอ่านพื้นผิวอย่างเข้าใจแล้ว  สิ่งสำคัญของการวาดรูป คือโครงสร้างที่มีความพอดีสมารถที่จะมองเห็น และเข้าใจในรูปทรงทุกด้านของรูปทรงนั้น หรือมองเห็นพื้นที่ว่างที่อยู่รอบด้านของรูปทรงขณะที่อยู่นิ่งๆ และเคลื่อนไหวของรูปทรงในทิศทางที่เป็นธรรมชาติ

การวาดภาพคน และภาพสัตว์นักศึกษาจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งแน่นอนนักศึกษาจำเป็นต้องเรียนวิชากายวิภาค (Anatomy) ทั้งคน และสัตว์เป็นเบื้องต้นหรือควบคู่ไปด้วย

การวาดเส้นแบบ Conceptual vision เป็นการนำเสนอในเรื่องขอIdea, Systems หรือจินตนาการที่มีเนื้อหาที่มองเห็นเข้าใจได้แบบสากลมีหลายรูปแบบ แนวคิดที่เห็นได้ชัดเจน เช่น Fantasy, Optical illusion, Surrealism, Symbolism

ในรายละเอียดของการวาดเส้นสำหรับนักศึกษาศิลปะจะต้องมีความเข้าใจ หรือแทบจะพูดได้ว่ามีวัฒนธรรมของเครื่องมือและวัสดุนั้น  หมายถึงธรรมชาติของเทคนิคต่างๆ ที่มีอยู่ในงานวาดเส้น ตลอดจนเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการวาดเส้นได้  ยกตัวอย่างเช่นไม้ไผ่ เปลือกผลไม้ และอื่นๆ ทีนอกเหนือจากปากกา หรือดินสอ
4713057_1[1].jpg
การวาดเส้นขั้นสูง

 การควบคุมและการกำหนดเนื้อหา หรือแนวทางการสร้างสรรค์วาดเส้นที่มีแนวความคิดเป็นหัวใจหลักซึ่งแน่นอนผลของการกำหนดแนวความคิด ย่อมจะมีทิศทางที่เห็นได้ชัดเจน New ideas และ Concept เป็นหัวใจหลักของการกำหนดโดยตรงของการสร้างสรรค์ทัศนศิลป์ ในช่วงระยะเวลาปลายศตวรรษที่ 19 เป็นจุดเริ่มต้นของการอิ่มตัวของค่านิยมแบบก้าวเข้าสู่ความเป็นModern Art เป็นช่วงระยะเวลาของ Impressionists และ Impressionists ในงานวาดเส้น และงานจิตรกรรมของการใช้ Ideas ของแสง โครงสร

 

้าง พื้นที่ว่าง รูปทรง และ Cubists  ซึ่งเป็นวิธีการมองของศิลปินในอีกมุมมองหนึ่ง การมองและสร้างสรรค์ แบบ Cubists เป็นแบบตัดทองของโครงสร้างโดยรม

ในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนักศิลปินจำนวนไม่น้อยที่ได้ได้มีความพึงพอใจที่อยู่กับที่ในเรื่อง Idea การมองรูปทรงต่างๆ โดยกำหนดเพียงแค่พื้นผิวของรูปทรงนั้น ๆ อาจมองจากค่าน้ำหนักของพื้นผิวเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะให้ความรู้สึกในมิติและการเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี เช่น การมองของกลุ่ม Impressionist ซึ่งจะให้ความรู้สึกในบรรยากาศได้เป็นอย่างดี

การสร้างสรรค์ศิลปะในยุโรปของกลุ่มสมัย Dada ในระหว่างปี 1920 และ 1930 ซึ่งเป็นภาพที่แสดงถึงการบันทึกในกฎของการเปลี่ยนแปลงในวิธีการของการสร้างสรรค์ ไม่ได้เกิดจากพื้นผิว หรือผสมผสานที่เกิดจากเครื่องมือ หรือการกำหนดเส้นโดยอัตโนมัติของการวาด

การให้มาตรฐานความสำคัญสู่การวาดเส้นชั้นสูง ซึ่งศิลปินจำต้องใส่ใจเป็นพิเศษนั้น   มีคำถามไม่มากนักที่คอยระมัดระวังในความคิด  และความรู้สึกหลังจากที่ศิลปินได้รับประสบการณ์จากการบันทึกประสบการณ์ที่จะได้กำหนดในผลงานของเขาโดยสม่ำเสมอสู่ความสำเร็จสมบูรณ์     สู่การออกแบบที่ดี ศิลปะชั้นเลิศ  หรือเต็มไปด้วยความน่าสนใจ  แต่ถ้าผลงานที่เกิดข้นมันไม่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ด้วยเนื้อหาสาระที่ต้องการแสดง  และความเป็นศิลปินชั้นเลิศด้วยเทคนิควิธีการนั้น  อาจจะมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมากมาย  เช่นความไม่เป็น Universal Standard หรือ การนำตัวเลือก (Factor) ที่ไม่ตรงกันไม่เป็นมาตรฐาน

การมองไปข้างหน้าอย่างเข้าใจเป็นการศึกษาแบบตรงที่สามารถพัฒนาสู่ศิลปะขั้นสูงได้เป็นอย่างดี มีทิศทางหรือทางเลือกมากมายในการทดลอง  การรับรู้ หยั่งรู้แนวลึก  และแนวความคิดที่มีความสามารถ มีความสำคัญ เพื่อสู่การพัฒนาการแสวงหาคุณสมบัติ ความสามารถเฉพาะตนของศิลปินเองเป็นสิ่งสำคัญของการเป็นศิลปินที่จะพัฒนาสู่ความเป็นศิลปะเฉพาะตน  แน่นอนอยู่บนพื้นฐานทั้งทางเทคนิค และ Ideas

กล่าวโดยสรุปของการวาดเส้นจะต้องเริ่มต้นจากทักษะเป็นพื้นฐาน ซึ่งในขณะที่ปฏิบัติเรียกทักษะในทุกระดับขึ้นตอนจะเกิดขบวนการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และโดยอัตโนมัติด้วยเทคนิควิธีการ และวัสดุต่างๆ  

องค์ประกอบในงานวาดเส้น

สัดส่วน ความสมดุล จังหวะ ความสมมาตร ทัศนียภาพ และทัศนธาตุทางองค์ประกอบ  ล้วนแต่เป็นสิ่งที่นักศึกษาจะไ

 

ด้จากากรเรียนวิชาวาดเส้น ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการวาดเส้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักศึกษาด้านศิลปะเพื่อนำไปซึ่งศิลปิน ตลอดจนนักออกแบบที่ดีได้  มีภาพเขียนของศิลปินระดับโลกมากมาย ที่พวกเขาเพียรพยามที่จะถ่ายทอดในสิ่งที่ต้องการแสดงออก มันมีระยะเวลา และระดับขั้นตอนมากมายว่าที่พวกเข้าจะถ่ายทอดการมอง การเห็น  และความรู้สึกภายในจิตเขาออกมาเป็นภาพที่สวยงามซึ่งแสดงความเป็นเฉพาะ หรือเอกลักษณ์ของแต่ละคน  ศิลปินเซอร์เรียลิสต์จะบันทึกความคิดของพวกเขาจากจิตไร้สำนึก  หรือจากแรงกระตุ้นบางอย่างที่อยู่ภายใน แน่นอนอาจจะมีแรงกดดันหรือแรงบันดาลใจอย่างสูงทำให้เกิดรูปทรงที่ไม่ธรรมดาไม่ปกติที่เป็นจริง พวกเขาจะต้องเริ่มต้นจากการได้เรียนเทคนิควิธีการในพื้นฐานของการวาดเส้น  และแน่นอนจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางทัศนธาตุองค์ประกอบเป็นสำคัญ เพื่อจะได้เน้นในสิ่งที่พวกเขาต้องการแสดงออกการวาดเส้น รูปทรงและการวาดเส้นพื้นทีว่าง (Form. Space) โดยปกติคนที่เราจะมองเห็นสิ่งที่เป็นวัตถุก่อนที่จะรับรู้ถึงพื้นที่ว่างและบรรยากาศ แต่ในทางกลับกันเมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้องมืด  หรือในคืนเดือนมืดสนิทที่สามารถมองเห็นอะไรในรอบด้าน สิ่งหนึ่งที่สามารถรับรู้ได้ คือความรู้สึกที่เป็นบรรยากาศ หือพื้นที่ว่างมีองค์ประกอบอย่างไร เช่น ความเย็น ความร้อน มีอากาศเคลื่อนไหว หรือมีลม ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็นจำเป็นจะต้องรับรู้  และถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรม เป็นผลงานซึ่งจะเป็นผลงานที่มีคุณภาพ

การวาดเส้นการลอกเลียนแบบสู่การสร้างสรรค์

การวาดเส้นจาการลอกเลียนแบบสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติในขบวนการศึกษาจะเริ่มต้นจากการลอกเลียนแบบ เช่นการเขียนรูปต้นไม้ก้อนหิน  รูปทรงมนุษย์ในท่าทางต่างๆ  ซึ่งล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบโดยรวมของการสร้างสรรค์ในระดับสูง  ศิลปินบางท่านอาจะต้องการบันทึกถึงสภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อม หรือธรรมชาติในความเป็นจริง  โดยผ่านความรู้สึกส่วนตัวในขณะอยู่ในบริเวณนั้น ๆเช่น  ภาพเขียนทิวทัศน์ ที่มีสิ่งแวดล้อม และทีสำคัญคือบรรยากาศที่กระทบความรู้สึก ภายในจิตใจของศิลป

 

ินเองในขณะที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ

ในพื้นฐานของประสบการณ์จากการที่ศิลปินได้รู้มาแต่อดีต หรือในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้รับรู้ ทั้งในอดีต และขณะปัจจุบันจะเป็นตัวก่อให้เกิดจินตนาการมากมายที่พวกเขาต้องการแสดงออก บางครั้งมันอาจจะมากเกินไปสำหรับการสร้างสรรค์ลงบนกระดาษหรือเฟรมขนาดใหญ่ที่มีอยู่ ประสบการณ์ และจินตนาการมากมายที่ศิลปิน หือคนทีต้องการแสดงออกโดยการวาดเส้นซึ่งอาจจะไม่สามารถถ่ายทอดได้ดี ถ้าพวกเขาไม่ได้ผ่านการวาดเส้นแบบลอกเลียนแบบนั้น หมายถึง ทักษะและเทคนิคของการวาดเส้น

การวาดเส้นคนมนุษย์ในขบวนการเรียนจะต้องเริ่มต้นจาการลอกเลียนแบบ โดยเน้นโครงสร้างทางกายวิภาคเป็นเบื้องต้นและการพัฒนาไปตามขั้นตอนด้วยเทคนิควิธีการ หรือวิธีการมองแบบต่างๆ เช่น เป็นรูปทรง เหลี่ยม มองเป็นจุด เป็นแสงเงา และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นตัวทำให้การพัฒนาในระดับสูง และสามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์แบบเฉพาะตน (Individual) เป็นระดับที่แสดงให้เห็นถึงการเข้าสู่การสร้างสรรค์ในระดับสูงแล้ว  ศิลปินจะต้องมีความแน่วแน่ในความคิดเพื่อที่จะได้เลือกเทคนิค และวิธีการต่างๆ ตลอดจนการมองที่มีมากมายให้เลือกยกตัวอย่างเช่น การเขียนภาพทิวทัศน์ที่มีองค์ประกอบด้วยมากมาย  ความซับซ้อนของรูปทรง พื้นที่ เป็นตัวกำหนดขอบเขต  ความเข้าใจอย่างถูกต้อง  อย่างลึกซึ้งจะต้องรู้ และแยกแยะความต้องการที่จะนำเสนอโดยเลือกเน้นในแต่ส่วนสำคัญ และสิ่งจำเป็นแนวความคิดเท่านั้น

ในความเข้าใจของคำว่า Drawing จะต้องประกอบด้วยวิธีการวาดรูป โดยใช้วัสดุต่าง ๆ ลงบนพื้นผิว ลงบนพื้นผิว ผ้าใบ กระดาษ แผ่นหิน ผืนทราย และอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดร่องรอย ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นลายเส้นอย่างเดียวอาจจะเป็นแผ่นระนาบใหญ่ๆ มาต่อชนกัน   ก็ได้  ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวัสดุและเทคนิค และแนวคิดที่ศิลปินต้องการจะแสดงออก แต่โดยพื้นฐานของรูปทรงทั้งหมดจะเป็นลายเส้น (Line)  และเส้นสัน (Edgy) ซึ่งจะอยู่บนรูปทรง มีน้ำหนัก แสงเงา และความเข้มอ่อนของวัสดุเป็นตัวประสานให้รู้สึกเป็นแท่ง (Mass) เดียวกัน

การเขียนรูปด้วยวิธีการลอกแบบหรือการลอกเลียนแบบในสิ่งต่างๆ ที่เห็นซึ่งเป็นขบวนการขั้นตอนในเบื้องต้นสู่การสร้างสรรค์ในระด

 

ับสูง  การลอกแบบหรือลอกเลียนแบบฟังแล้วมันเหมือนกับว่าจะไม่ยากเพราะวาดให้เหมือนก็เท่านั้น  มันจะไม่ง่ายเหมือนการถ่ายรูป หรือการถ่ายเอกสารด้วยเครื่องอิเล็คทรอนิคส์  ก่อนอื่นจะต้องรู้จักการมองและเห็น กล่าวคือ เห็นแบบเข้าใกล้ชิด (approach) สัมผัสรู้ (perception) โดยตรงถึงวัสดุนั้นๆ และสามารถวิเคราะห์ สิ่งที่เห็น สิ่งที่ต้องการลอกแบบได้อย่างชัดเจน


 paste_image1.jpgการรับรู้ด้านสุนทรียศาสตร์ในการวาดเส้น

คำว่าการเขียน (Drawing) มีการแสดงออกที่แตกต่างออกไปตามแต่บุคคลเชื่อในนิยามของการเขียนภาพนั้น ซึ่งการแสดงออกนั้นมีความหลากหลาย เกิดได้จากประสบการณ์ สภาพแวดล้อม และ และจิตใต้สำนึกของบุคคลนั้นๆ ซึ่งเครยอง ชอร์ค หมึก พู่กัน ฯลฯ หรือเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้นำมากระทำบนระนาบ หรือสิ่งที่เป็นสามมิติก็ตามแต่

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีการสร้างสรรค์มากมายที่ไม่ใช่แค่การเขียนเส้นด้วยดินสอลงในกระดาษเพียงวิธีการเดียว  ผู้เขียนภาพมีอิสระทางความคิด มีเสรีภาพในการสร้างผลงานมากขึ้น   ทั้งเรื่องราวและรูปแบบ  ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมและกาลเวลา

การเห็นมีความสำคัญมากในการเขียนภาพมีผลในแง่ของการรับรู้  ในแต่ละคนอาจมีการเห็นที่แตกต่างกันซึ่งเกิดจากจิตใต้สำนึก    การฝึกฝน   รสนิยม และสภา

 

พแวดล้อมที่แตกต่างกัน  จนมีอิทธิพลในการถ่ายทอดผลงานผ่านทางประสาทสัมผัสทางตามาถึงอวัยวะ  ต่าง ๆ ของร่างกาย          ที่สามารถกระทำให้เกิดผลงาน ผสมกับการแสดงออกด้วยจิตนาการ ทั้งนี้มนุษย์สามารถฝึกฝนในการมองเห็นได้

ในการเขียนภาพได้จำแนกชนิดของการเห็น ตามวิธีการสังเกตเชิงสุนทรียภาพ  ดังนี้

1. เห็นเพราะรูปและพื้น (Figure and Ground) เห็นด้วยการจำแนกมวลรูปทรงและพื้นภาพออกจากกัน

2. เห็นเพราะทิศทางแสงสว่าง (Lighting Direction) การหาทิศทางของแสงสว่าง การมองเห็นโครงสร้างรูปด้วยแสงและเงา

3. เห็นเพราะหลักทัศนียภาพ (Perspective) เป็นการเห็นที่มีแบบแผน  ด้วยการหาจุดรวมสายตา  เพื่อดึงเส้นจุดมาเป็นโครงรูปภาพ เป็นการเห็นที่ใช้ในการเขียนแบบ

4. เห็นเพราะการจำแนกของสนามภาพ (Classify Visual Field) สนามภาพเป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดขอบเขตจากเส้นรอบภาพเป็นการเห็นที่จำแนกพื้นที่ต่างๆ ไว้เป็นส่วนๆ

5. เห็นเพราะมวลของรูปร่างที่เกิดจากากรก่อตัวของเส้น (The Shape Of Masses by Following the Formative Lines) การจับทิศทาง องศา ลักษณะ เส้นของรูปร่างที่เห็น

ประเภทของการวาดเส้น

                 ภาพเขียนที่รู้จักและพบเห็นโดยทั่วไป  มีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่ในแต่ละประเภท  ซึ่งแต่ละภาพล้วนเป็นการนำเสนอแนวความคิดจินตนาการ  และเรื่องราวที่ศิลปินต้องการถ่ายทอดความรู้สึกของตน  ในที่นี้ได้แยกเป็นประเภทของการเขียนภาพออกเป็น   4    ประเภท    ได้แก่  การเขียนภาพหุ่นนิ่ง  การเขียนภาพคน  และการเขียนภาพทิวทัศน์ 

1.  การวาดเส้นภาพหุ่นนิ่ง

                   การเขียนภาพหุ่นนิ่ง   (still  life  drawing)     หมายถึง  การเขียนภาพวัตถุสิ่งของต่าง  ๆ  ที่อยู่รอบตัวในบริเวณจำกัด  เช่น  ภาพวัตถุสิ่งของและเครื่องใช้ต่าง  ๆ ภายในห้อง   เป็นต้น  หุ่นนิ่งมีหลายรูปแบบหลายลักษณะและหลายขนาดแตกต่างกันไปการเขียนภาพหุ่นนิ่งแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ  ดังนี้

1.1   หุ่นนิ่งจากธรรมชาติ  

 

1.2   หุ่นนิ่งจากวัตถุสิ่งของที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น

 

 

1.3   หุ่นนิ่งรูปทรงเรขาคณิต

 

 

2.  การวาดเส้นภาพคน

                                   การเขียนภาพคน (human drawing) หมายถึงการเขียนภาพคนที่มีต้นแบบจากคนจริง      จากภาพถ่าย หรือจากจินตนาการ  ซึ่งกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะนั้นที่ถือว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างไม่ว่าจะเป็นลอกเลียนแบบจากธรรมชาติ หรือการดัดแปลงสรรค์สร้างตามจินตนาการของตนก็ตาม ด้วยวิธีการลอกเลียนแบบจากธรรมชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดจากประสบการณ์ จากการมองเห็นและจดจำ เพื่อนำมาถ่ายทอดเป็นภาพเขียน และเมื่อผู้เรียนผ่านขั้นตอนกระบวนการฝึกเขียนภาพหุ่นนิ่งตามแบบของวัตถุต่าง ๆ แล้วขั้นต่อมา คือ การเขียนภาพคนเป็นลำดับที่ยากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง       การเขียนภาพคน    ในที่นี้ได้แยกประเภทตามรูปแบบภายนอกที่ปรากฏซึ่งจะได้กล่าวถึงรายละเอียดในบทต่อไป   ดังนี้  

2.1 การวาดเส้นคนเหมือน (portrait)  หรือ การเขียนภาพคนครึ่งตัว

paste_image8.jpg

 

2.2   การวาดเส้นคนเต็มตัว (figure) 

paste_image9.jpg

 

 

2.3 การวาดเส้นภาพนู้ด (nude)  หรือ การวาดเส้นภาพคนเปลือย

paste_image12.jpg

 

 

3.  การวาดเส้นภาพทิวทัศน์

                    การวาดเส้นภาพทิวทัศน์  (landscape)  หมายถึง  การเขียนภาพบริเวณภายนอกที่อยู่อาศัย  ไม่ว่าจะเป็นอาคาร    สถานที่ต่างๆ    ธรรมชาติรอบตัว    ภูเขา    ต้นไม้     ทะเล     น้ำตก    เป็นต้น  การเขียนภาพสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เหล่านี้     ผู้ศึกษาจะต้องเรียนรู้และมีความเข้าใจในการเขียนเส้นระดับตาและเส้นนำสายตาภายในภาพ เพื่อให้ภาพเขียนเกิดความสมจริงมีมิติความลึกอยู่ภายใน  การเขียนภาพทิวทัศน์นี้   โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น  3   ประเภท  ซึ่งจะขอกล่าวถึงรายละเอียดในบทต่อไป    ดังนี้

   3.1   การวาดเส้นภาพทิวทัศน์บก   

 

 

   3.2   การวาดเส้นภาพทิวทัศน์ทะเล 

 

 

3.3   การวาดเส้นภาพทิวทัศน์สิ่งก่อสร้าง 

 

 

 

 

สรุป

                 การเขียนภาพเบื้องต้นมีความหมายและความสำคัญต่อผู้ที่ต้องการศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนำไปปฏิบัติให้เกิดทักษะความชำนาญเริ่มจากการเขียนภาพลอกเลียนแบบในธรรมชาติตามที่ตามองเห็น ไปจนถึงการเขียนภาพขั้นสูงที่สามารถถ่ายทอดแบบจากความคิดและจินตนาการของตนจักเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง

                การเขียนภาพในขั้นพื้นฐานนั้น ผู้ศึกษาจำเป็นต้องฝึกการเขียนภาพโดยอาศัยต้นแบบ    จากสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบตัวในธรรมชาติเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจในที่นี้ได้แยกประเภทการเขียนภาพออกเป็น  4  ประเภท     ได้แก่      ภาพหุ่นนิ่ง     ภาพคน       ภาพทิวทัศน์      และภาพสัตว์ต่างๆ   ซึ่งมีหลักการเขียนภาพในแต่ละประเภทแบ่งเป็นรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ   ได้แก่    การเขียนภาพหุ่นนิ่งประเภทต่าง ๆ  เพื่อศึกษารูปทรงภายนอกและพื้นผิว  การเขียนภาพคนทั้งภาพคนเหมือนและคนเต็มตัว เพื่อศึกษาโครงสร้างสัดส่วนของร่างกายที่มีความแตกต่างกันระหว่างเพศและช่วงอายุ  การเขียนภาพทิวทัศน์ประเภทต่างๆ  เพื่อศึกษามุมมองการสร้างระยะมิติความลึกภายในภาพและการเขียนภาพสัตว์ประเภทต่างๆ   เพื่อศึกษารูปร่างลักษณะเด่นของสัตว์แต่ละประเภท   ทั้งนี้เพื่อเป็นพื้นฐานให้     ผู้ศึกษาได้เข้าใจถึงความเป็นมาของการเขียนภาพเบื้องต้นในบทเรียนหัวข้อต่อไป

 

 

 ทบทวนบทเรียน  

  

 

กิจกรรมท้ายบท

1.  ให้นักศึกษาในชั้นเรียนร่วมกันอธิบายความหมายและความสำคัญของการวาดเส้นเบื้องต้น

2.  ให้นักศึกษาอธิบายประเภทของการวาดเส้นเบื้องต้นว่ามีกี่ประเภทอะไรบ้าง 

3.  ให้นักศึกษาอธิบายการวาดเส้นภาพหุ่นนิ่งว่ามีกี่ประเภท  อะไรบ้าง  อธิบาย

4. ให้นักศึกษาอธิบายการวาดเส้นภาพคนว่ามีกี่ประเภทอะไรบ้าง  อธิบาย 

5.  ให้นักศึกษาอธิบายการวาดเส้นภาพทิวทัศน์ว่ามีกี่ประเภท  อะไรบ้าง  อธิบาย