การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สนองตอบวิถีชีวิตคนเมือง

           การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม  ระบบ  และวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ที่หลากหลายและละเอียดอ่อนขึ้น  ดังนั้นการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ทางการตลาดสมัยใหม่ได้นั้น  ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแง่มุมที่กว้างขึ้น  ทั้งในแง่ของความสะดวกสบายในการใช้งาน ขนาดที่กะทัดรัด  การเคลื่อนย้ายที่สะดวก  ความสุขทางใจที่ได้รับจากการใช้หรือมีไว้ในครอบครอง รวมทั้งค่านิยมทางสังคม  และอื่นๆ อย่างเหมาะสมในหลายๆ ด้าน  เช่น

 

1.       ความเชื่อว่าตนเป็นผู้มีวิถีชีวิตที่ทันสมัย

            เป็นลักษณะของการดำเนินชีวิตที่เคียงข้างกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการออกแบบ  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำเนินชีวิตของคนเป็นอย่างมากวิวัฒนาการดังกล่าวมีทั้งผลดีและผลเสียควบคู่กันไป  ตัวอย่างเช่น  การสื่อสารด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ถ่ายภาพได้  บอกพิกัดตำแหน่งด้วยสัญญาณดาวเทียม  รับส่งอีเมล์และท่องอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา  การฟังเพลงจากเครื่องเล่น  MP3  การชมภาพยนตร์โปรดจากเครื่องเล่น DVD ขนาดพกพาน้ำหนักเบา  แก้วเบียร์ที่สามารถส่งสัญญาณวิทยุไปบอกบาร์เทนเดอร์ให้มาเติมเบียร์เพิ่มแบบอัตโนมัติ  ตู้ยาที่สามารถเตือนผู้สูงอายุที่สายตาไม่ดี  ให้หยิบยาแต่ละขวดได้อย่างถูกต้องตามลำดับ  เป็นต้น

2.       ความคิดก้าวหน้า

            เป็นความคิดที่ไม่หยุดอยู่กับที่  ก้าวขยับไปข้างหน้าตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น หน้าที่หลักของนาฬิกาเดิมเป็นเพียงการบอกเวลาและวันที่เท่านั้น ก็ค่อยๆพัฒนาเพิ่มเติมให้สามารถจับเวลาได้  เทียบเวลาสองประเทศ ตั้งปลุกและคุณสมบัติเพิ่มเติมตามมาอีกมากมาย เช่น ตรวจวัดชีพจร  ความดันโลหิต  และสารพัดหน้าที่ตามมาอย่างไม่ขาดสาย 

3.       อิทธิพลของแนวโน้มทางการออกแบบ (Trends)

            เป็นการคาดเดาที่ถูกออแบบเตรียมไว้ล่วงหน้า  มีอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของกลุ่มบุคคลให้คล้อยตามกัน  ตัวอย่างแนวโน้ม  ได้แก่  

*       คนเมืองย้ายที่อยู่บ่อยตามหน้าที่การงาน

                   เครื่องใช้สอยต่างๆ ที่ออกแบบมาใหม่นั้นควรมีน้ำหนักเบาเพื่อสะดวกต่อการขนย้าย  และเนื่องจากที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็กลง  เครื่องใช้สอยต่างๆ  จึงควรมีขนาดเล็กตามหรือสามารถพับเก็บได้เพื่อประหยัดเนื้อที่

*       ครอบครัวขนาดเล็กลง

                   มักอยู่ตัวคนเดียวหรือ 2  คน มีบุตร 1 คน แก้เหงาด้วยการเล่นหรือคุยคนเดียว  การใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างนึกถึงตนเองเป็นหลัก  มีนิสัยทำอะไรตามใจตนเองมากขึ้น มีความพอใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต  มีส่วนประกอบของความคิดริเริ่มส่วนตัวและสนุกสนานร่วมด้วย

*       การนำสิ่งตรงข้ามมาใช้ร่วมกัน (The  Fusion  of  Opposite)

                   เป็นการผสมสิ่งที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันคนละขั้วเข้าด้วยกัน เช่น แสงสว่างกับความมืด  การผสมผสานของสไตล์ย้อนยุคกับสไตล์ร่วมสมัย หรือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับธรรมชาติ (Neo  Nature)

*       การใช้สีสันที่สดใส  หลากสี  หรือสีที่แตกต่างกันมาใช้ร่วมกัน

                   ทำให้เกิดความรู้สึกสนุกสนานมีชีวิตชีวามากขึ้น  เพื่อชดเชยวิถีชีวิตจริงที่วุ่นวาย  รีบเร่ง และเคร่งเครียดขึ้นทุกวัน

*       สไตล์เรียบง่าย (Minimalist)

                   เป็นรูปแบบที่ดูเรียบง่ายแต่ให้ความสะดวกสบาย เพราะทุกวันนี้คนเราทำงานหนักมากขั้น จึงต้องการผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน ยิ่งสิ่งรอบตัวมีความซับซ้อนมากขึ้น เราก็ยิ่งแสวงหาความเรียบง่ายมากขึ้น เพื่อชุบชีวิตชีวาสร้างความสดชื่นและสนุกสนานให้ชีวิตในทุกวิถีทาง 

4.       ภาวะเศรษฐกิจ  การเมือง  และสิ่งแวดล้อม

             ในภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการเมือง  และความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ผู้คนถอยหาที่พักใจ หลีกลี้หามุมสงบส่วนตัว บ้านจึงกลายเป็นบังเกอร์ของคนยุคใหม่ให้ซุ่มหลบความวุ่นวาย ใช้สร้างฝันและโลกในอุดมคติ การแสวงหาความเพลิดเพลินในทุกประสาทรับรู้ทั้ง ภาพ เสียง กลิ่น รส  สัมผัส รวมถึงศิลปะ  ปรัชญา รายละเอียดที่ลึกซึ้ง ล้วนเป็นองค์ประกอบของชีวิตที่คนยุคใหม่แสวงหา จากการที่ผู้บริโภคหันเข้าหาความบันเทิงภายในบ้าน  ซึ่งดูจะปลอดภัยและสบายใจที่สุดในยุคนี้  ทำให้เกิด Audio visual  products ที่เรียกว่า"เทคโนโลยี เพื่อความบันเทิงในครัวเรือน" ออกมามากมาย


Click to close